รำวงมาตรฐาน ประกอบด้วยเพลงทั้งหมด ๑๐ เพลง กรมศิลปากรแต่งเนื้อร้องจำนวน ๔ เพลง คือ เพลงงามแสงเดือน เพลงชาวไทย เพลงรำซิมารำ เพลงคืนเดือนหงาย ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม แต่งเนื้อร้องเพิ่มอีก ๖ เพลง คือ เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ เพลงดอกไม้ของชาติ เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า เพลงหญิงไทยใจงาม เพลงบูชานักรบ เพลงยอดชายใจหาญ ส่วนทำนองเพลงทั้ง ๑๐ เพลง กรมศิลปากร และกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้แต่ง
จากการสัมภาษณ์นางสุวรรณี ชลานุเคราะห์ ศิลปินแห่งชาติ สาชาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย) ปีพุทธศักราช ๒๕๓๓ อธิบายว่า “ท่ารำเพลงรำวงมาตรฐานประดิษฐ์ท่ารำโดย นางลมุล ยมะคุปต์ นางมัลลี คงประภัศร์ และนางศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป ส่วนผู้คิดประดิษฐ์จังหวะเท้าของเพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ คือนางจิตรา ทองแถม ณ อยุธยา อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสังคีตศิลป ปัจจุบันคือ วิทยาลัยนาฏศิลป ปีพ.ศ.๒๔๘๕ – ๒๔๘๖
เมื่อปรับปรุงแบบแผนการเล่นรำโทนให้มีมาตรฐาน และมีความเหมาะสม จึงมีการเปลี่ยนแปลงชื่อจากรำโทนเป็น “รำวงมาตรฐาน” อันมีลักษณะการแสดงที่เป็นการรำร่วมกันระหว่างชาย – หญิง เป็นคู่ ๆ เคลื่อนย้ายเวียนไปเป็นวงกลม มีเพลงร้องที่แต่งทำนองขึ้นใหม่ มีการใช้ทั้งวงปี่พาทย์บรรเลงเพลงประกอบ และบางเพลงก็ใช้วงดนตรีสากลบรรเลงเพลงประกอบ ซึ่งเพลงร้องที่แต่งขึ้นใหม่ทั้ง ๑๐ เพลง มีท่ารำที่กำหนดไว้เป็นแบบแผนคือ

  •  เพลงงามแสงเดือน ท่าสอดสร้อยมาลา
  • เพลงชาวไทย ท่าชักแป้งผัดหน้า
  • เพลงรำมาซิมารำ ท่ารำส่าย
  • เพลงคืนเดือนหงาย ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง
  • เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ ท่าแขกเต้าเข้ารัง และท่าผาลาเพียงไหล่
  • เพลงดอกไม้ของชาติ ท่ารำยั่ว
  • เพลงหญิงไทยใจงาม ท่าพรหมสี่หน้า และท่ายูงฟ้อนหาง
  • เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า ท่าช้างประสานงา และท่าจันทร์ทรงกลดแปลง
  • เพลงยอดชายใจหาญ หญิงท่าชะนีร่ายไม้ ชายท่าจ่อเพลิงกาฬ
  • เพลงบูชานักรบ หญิงท่าขัดจางนาง และท่าล่อแก้ว ชายท่าจันทร์ทรงกลดต่ำ และท่าขอแก้ว

รำวงมาตรฐาน นิยมเล่นในงานรื่นเริงบันเทิงต่าง ๆ และยังนิยมนำมาใช้เล่นแทนการเต้นรำ สำหรับเครื่องแต่งกายก็มีการกำหนดการแต่งกายของผู้แสดงให้มีระเบียบด้วยการใช้ชุดไทย และชุดสากลนิยม โดยแต่งเป็นคู่ รับกันทั้งชายและหญิง อาทิ ผู้ชายนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อคอกลม มีผ้าคาดเอว ผู้หญิงนุ่งโจงกระเบน ห่มสไบอัดจีบ ผู้ชายนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อราชประแตน ผู้หญิงแต่งชุดไทยแบบรัชกาลที่ ๕ ผู้ชายแต่งสูท ผู้หญิงแต่งชุดไทยเรือนต้น หรือไทยจักรี
รำวงมาตรฐาน เป็นการรำที่ได้รับความนิยมสืบมาจนถึงปัจจุบัน มักนิยมนำมาใช้หลังจากจบการแสดง หรือจบงานบันเทิงต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนผู้ร่วมงานออกมารำวงร่วมกัน เป็นการแสดงความสามัคคีกลมเกลียว อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติในการออกมารำวงเพื่อความสนุกสนาน

ดนตรี และเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง
ใช้วงปี่พาทย์ไม้นวม
เพลงที่ใช้ประกอบการแสดงได้แก่ เพลงงามแสงเดือน เพลงชาวไทย เพลงรำซิมารำ เพลงคืนเดือนหงาย เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ เพลงดอกไม้ของชาติ เพลงหญิงไทยใจงาม เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า เพลงยอดชายใจหาญ และเพลงบูชานักรบ
เครื่องแต่งกาย
เครื่องแต่งกายของรำวงมาตรฐาน ประกอบด้วย ๔ แบบดังนี้

  • แบบที่ ๑ แบบชาวบ้าน
    ชาย นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อคอพวงมาลัย เอวคาดผ้าห้อยชายด้านหน้าหญิง นุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบอัดจีบ ปล่อยผม ประดับดอกไม้ที่ผมด้านซ้าย คาดเข็มขัด ใส่เครื่องประดับ
  • แบบที่ ๒ แบบรัชกาลที่ ๕
    ชาย นุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อราชประแตน ใส่ถุงเท้า ร้องเท้าหญิง นุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อลูกไม้ สไบพาดบ่าผูกเป็นโบว์ ทิ้งชายไว้ข้างลำตัวด้านซ้าย ใส่เครื่องประดับมุก
  • แบบที่ ๓ แบบสากลนิยม
    ชาย นุ่งกางเกง สวมสูท ผูกไท้หญิง นุ่งกระโปรงป้ายข้าง ยาวกรอมเท้า ใส่เสื้อคอกลม แขนกระบอก
  • แบบที่ ๔ แบบราตรีสโมสร
    ชายนุ่งกางเกง สวมเสื้อพระราชทาน ผ้าคาดเอวห้อยชายด้านหน้าหญิงนุ่งกระโปรงยาวจีบหน้านาง ใส่เสื้อจับเดรป ชายผ้าห้อยจากบ่าลงไปทางด้านหลัง เปิดไหล่ขวา ศีรษะทำผมเกล้าเป็นมวยสูง ใส่เกี้ยวและเครื่องประดับ

ประวัติความเป็นมา

รำวงมาตรฐาน เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจาก “ รำโทน “ เป็นการรำและร้องของชาวบ้าน ซึ่งจะมีผู้รำทั้งชาย และหญิง รำกันเป็นคู่ ๆ รอบ ครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้ หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการรำ และร้องเป็นไปตามความถนัด ไม่มีแบบแผนกำหนดไว้ คงเป็นการรำ และร้องง่าย ๆ มุ่งเน้นที่ความสนุกสนานรื่นเริงเป็นสำคัญ เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวนยาเหล เพลงหล่อจิงนะดารา เพลงตามองตา เพลงใกล้เข้าไปอีกนิด ฯลฯ ด้วยเหตุที่การรำชนิดนี้มีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ จึงเรียกการแสดงชุดนี้ว่า “ รำโทน “
ต่อมาเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๘๗ ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี รับบาลตระหนักถึงความสำคัญของการละเล่นรื่นเริงประจำชาติ และเห็นว่าคนไทยนิยมเล่นรำโทนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าปรับปรุงการเล่นรำโทนให้เป็นระเบียบทั้งเพลงร้องลีลาท่ารำ และการแต่งกาย จำทำให้การเล่นรำโทนเป็นที่น่านิยมมากยิ่งขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากรปรับปรุงรำโทนเสียใหม่ให้เป็นมาตรฐาน มีการแต่งเนื้อร้อง ทำนองเพลงและนำท่ารำจากแม่บทมากำหนดเป็นท่ารำเฉพาะแต่ละเพลงอย่างเป็นแบบแผน

รูปแบบ และลักษณะการแสดง

รำวงมาตรฐาน เป็นการรำหมู่ประกอบด้วยผู้แสดง ๘ คน ท่ารำประดิษฐ์ขึ้นจากท่ารำมาตรฐานในเพลงแม่บท ความสวยงามของการรำอยู่ที่กระบวนท่ารำที่มีลักษณะเฉพาะในแต่ละเพลง และเครื่องแต่งกายไทยสมัยต่าง ๆ รวมทั้งรูปแบบการแสดงในลักษณะการแปรแถวเป็นวงกลม

รำวงมาตรฐาน ๑๐ เพลง

เพลงที่ ๑ เพลงงามแสงเดือน

เนื้อเพลง
งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามใบหน้าเมื่ออยู่วงรำ (ซ้ำ)
เราเล่นเพื่อสนุก เปลื้องทุกข์วายระกำ
ขอให้เล่นฟ้อนรำ เพื่อสามัคคีเอย

ท่ารำที่ใช้
หญิง : สอดสร้อยมาลา
ชาย : สอดสร้อยมาลา

เพลงที่ ๒ เพลงชาวไทย

เนื้อเพลง
ชาวไทยเจ้าเอ๋ย     ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่
การที่เราได้เล่นสนุก     เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้
เพราะชาติเราได้เสรี     มีเอกราชสมบูรณ์
เราจึงควรช่วยชูชาติ     ให้เก่งกาจเจิดจำรูญ
เพื่อความสุขเพิ่มพูน     ของชาวไทยเรา เอย

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่าชักแป้งผัดหน้า
ชาย : ท่าชักแป้งผัดหน้า

เพลงที่ ๓ เพลงรำมาซิมารำ

เนื้อเพลง
รำซิมารำ     เริงระบำกันให้สนุก
ยามงานเราทำงานจริง ๆ     ไม่ละไม่ทิ้งจะเกิดเข็ญขลุก
ถึงยามว่างเราจึงรำเล่น     ตามเชิงเช่นเพื่อให้สร่างทุกข์
ตามเยี่ยงอย่างตามยุค     เล่นสนุกอย่างวัฒนธรรม
เล่นอะไรให้มีระเบียบ     ให้งามให้เรียบจึงจะคมขำ
มาซิมาเจ้าเอ๋ยมาฟ้อนรำ     มาเล่นระบำของไทยเราเอย

ท่ารำที่ใช้
หญิง : รำส่าย
ชาย : รำส่าย

เพลงที่ ๔ เพลงคืนเดือนหงาย

เนื้อเพลง
ยามกลางคืนเดือนหงาย         เย็นพระพายโบกพริ้วปลิวมา
เย็นอะไรก็ไม่เย็นจิต              เท่าเย็นผูกมิตรไม่เบื่อระอา
เย็นร่มธงไทยปกไปทั่วหล้า     เย็นยิ่งน้ำฟ้ามาประพรมเอย

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง
ชาย : ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง

เพลงที่ ๕ เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ

เนื้อเพลง
ดวงจันทร์วันเพ็ญ                  ลอยเด่นอยู่ในนภา
ทรงกลดสดสี                          รัศมีทอแสงงามตา
แสงจันทร์อร่าม                      ฉายงามส่องฟ้า
ไม่งามเท่าหน้า                        นวลน้องยองใย
งามเอยแสนงาม                      งามจริงยอดหญิงชาติไทย
งามวงพักตร์ยิ่งดวงจันทรา      จริตกิริยานิ่มนวลละไม
วาจากังวาน                               อ่อนหวานจับใจ
รูปทรงสมส่วนยั่วยวนหทัย       สมเป็นดอกไม้ขวัญใจชาติเอย

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่าแขกเต้าเข้ารัง และท่าผาลาเพียงไหล่
ชาย : ท่าแขกเต้าเข้ารัง และท่าผาลาเพียงไหล่

เพลงที่ ๖ เพลงดอกไม้ของชาติ

เนื้อเพลง
ขวัญใจดอกไม้ของชาติ          งามวิลาสนวยนาดร่ายรำ
เอวองค์อ่อนงาม                     ตามแบบนาฎศิลป์
ชี้ชาติไทยเนาว์ถิ่น                   เจริญวัฒนธรรม
งานทุกสิ่งสามารถ                   สร้างชาติช่วยชาย
ดำเนินตามนโยบาย                สู้ทนเหนื่อยยากตรากตรำ

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่ารำยั่ว
ชาย : ท่ารำยั่ว

เพลงที่ ๗ เพลงหญิงไทยใจงาม

เนื้อเพลง
เดือนพราว             ดาวแวววาวระยับ
แสงดาวประดับ       ส่องให้เดือนงามเด่น
ดวงหน้า               โสภาเพียงเดือนเพ็ญ
คุณความดีที่เห็น     เสริมให้เด่นเลิศงาม
ขวัญใจ                หญิงไทยส่งศรีชาติ
รูปงามวิลาส          ใจกล้ากาจเรืองนาม
เกียรติยศ              ก้องปรากฎทั่วคาม
หญิงไทยใจงาม      ยิ่งเดือนดาวพราวแพรว

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่าพรหมสี่หน้า และท่ายูงฟ้อนหาง
ชาย : ท่าพรหมสี่หน้า และท่ายูงฟ้อนหาง

เพลงที่ ๘ เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า

เนื้อเพลง
ดวงจันทร์ขวัญฟ้า      ชื่นชีวาขวัญพี่
จันทร์ประจำราตรี       แต่ขวัญพี่ประจำใจ
ที่เทิดทูนคือชาติ        เอกราชอธิปไตย
ถนอมแนบสนิทใน      คือขวัญใจพี่เอย

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่าช้างประสานงา และท่าจันทร์ทรงกลดแปลง
ชาย : ท่าช้างประสานงา และท่าจันทร์ทรงกลดแปลง

เพลงที่ ๙ เพลงยอดชายใจหาญ

เนื้อเพลง
โอ้ยอดชายใจหาญ         ขอสมานไมตรี
น้องขอร่วมชีวี               กอบกรณีย์กิจชาติ
แม้สุดยากลำเค็ญ           ไม่ขอเว้นเดินตาม
น้องจักสู้พยายาม            ทำเต็มความสามารถ

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่าชะนีร่ายไม้
ชาย : ท่าจ่อเพลิงกาฬ

เพลงที่ ๑๐ เพลงบูชานักรบ

เนื้อเพลง
น้องรักรักบูชาพี่                ที่มั่นคงที่มั่นคงกล้าหาญ
เป็นนักสู้เชี่ยวชาญ             สมศักดิ์ชาตินักรบ
น้องรักรักบูชาพี่                  ที่มานะที่มานะอดทน
หนักแสนหนักพี่ผจญ            เกียรติพี่ขจรจบ
น้องรักรักบูชาพี่                 ที่ขยันที่ขยันกิจการ
บากบั่นสร้างหลักฐาน        ทำทุกด้าน ทำทุกด้าน ครันครบ
น้องรักรักบูชาพี่                ที่รักชาติที่รักชาติยิ่งชีวิต
เลือดเนื้อพี่พลีอุทิศ            ชาติยงอยู่ ชาติยงอยู่ คู่พิภพ

ท่ารำที่ใช้
หญิง : ท่าขัดจางนาง และท่าล่อแก้ว
ชาย : ท่าจันทร์ทรงกลดต่ำ และท่าขอแก้ว